SIAM SANTA TRAVEL

เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 1)

นำท่านเดินทางและขึ้นชมความยิ่งใหญ่ของ กำแพงเมืองโบราณซีอาน สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่และความรุ่งเรืองของประวัติศาสตร์จีน สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิหงหวู่แห่งราชวงศ์หมิง เมื่อปี ค.ศ. 1370 กำแพงนี้มีความยาวประมาณ 13.7 กิโลเมตร ล้อมรอบพื้นที่ใจกลางเมืองซีอาน และถือเป็นหนึ่งในกำแพงเมืองโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุดในประเทศจีน โครงสร้างของกำแพงเมืองซีอานสะท้อนถึงความชาญฉลาดด้านการป้องกันเมืองในอดีต ด้วยความสูงประมาณ 12 เมตร และความกว้างที่ฐานประมาณ 15-18 เมตร ทำให้กำแพงนี้แข็งแกร่งและสามารถรองรับการเดินของทหารและการขนส่งอาวุธบนยอดกำแพงได้ นอกจากนี้ ยังมีป้อมปราการและหอคอยที่สร้างขึ้นในระยะห่างที่เหมาะสม เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการป้องกัน กำแพงเมืองซีอานไม่เพียงแต่เป็นโครงสร้างทางทหาร แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่สืบทอดมายาวนาน ท่านสามารถเดินหรือปั่นจักรยานบนยอดกำแพง (ราคาทัวร์ไม่รวมเช่าค่าจักรยาน) เพื่อชมทัศนียภาพของเมืองซีอานจากมุมสูง สัมผัสบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างความเก่าแก่และความทันสมัยได้อย่างลงตัว

นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสหอกลองหอระฆัง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซีอาน มณฑลส่านซี ประเทศจีน เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมือง หอระฆังสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1384 ในสมัยราชวงศ์หมิง เดิมตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมือง แต่ถูกย้ายมายังตำแหน่งปัจจุบันในปี ค.ศ. 1582 เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวของเมือง หอระฆังมีความสูงประมาณ 36 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่กว้างขวาง โครงสร้างเป็นไม้ทั้งหลัง หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบสีเขียวและยอดประดับด้วยทองคำ ทั้งหอระฆังและหอกลองเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรมจีนโบราณที่ผสมผสานความงามและความสมดุล นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวในซีอาน พื้นที่รอบๆ หอระฆังและหอกลองมีลานกว้างที่ผู้คนมักมารวมตัวกันในช่วงเย็นถึงค่ำ บริเวณใกล้เคียงยังมีร้านค้า ร้านกาแฟ และถนนคนเดินที่คึกคัก

นำท่านเดินทางสู่ ถนนมุสลิม ย่านชาวมุสลิมแห่งซีอาน สายใยของวัฒนธรรมที่ผสานกันระหว่างจีนดั้งเดิมและอารยธรรมอิสลามที่ฝังรากลึกนับพันปี ย่านที่เต็มไปด้วยกลิ่นเครื่องเทศ เสียงเรียกค้าขาย และความทรงจำของเส้นทางสายไหมที่ยังมีชีวิต ย่านนี้เป็นแหล่งรวมถนนสายเก่าที่เชื่อมกันเป็นเขาวงกตแห่งวิถีชาวมุสลิม กว่า 60,000 คนที่อาศัยอยู่ ณ ใจกลางเมืองซีอานมาตั้งแต่ยุคราชวงศ์ซ่ง ไปจนถึงราชวงศ์หมิงและชิง สองข้างถนนเป็นอาคารสไตล์หมิง–ชิงที่ผสมผสานกับความละเมียดของศิลปะอิสลาม คุณจะได้พบร้านขายอาหารฮาลาล เครื่องเทศหอมกรุ่น เตาย่างเคบับเนื้อและแกะแบบสด ๆ ชามเนื้อวัวตุ๋นในซุปใสที่เดือดควันพุ่งไม่หยุด ขนมพื้นบ้านที่ผสานสูตรโบราณกับวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ นอกจากความอร่อย ยังมีมัสยิดเก่าแก่หลายแห่งที่ซ่อนอยู่ในตรอกซอย ที่เปรียบดั่งหัวใจของศรัทธา และการอยู่ร่วมกันของวัฒนธรรมจีนและมุสลิมอย่างสงบมาเนิ่นนาน

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 2)

บ่ายนำท่านชม เจดีย์ห่านป่าใหญ่ บทบันทึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพุทธศาสนา การแสวงหาความรู้ และมรดกทางวัฒนธรรมของจีนกว่า 1,300 ปี ณ ใจกลางของ วัดต้าฉือเอิน อันศักดิ์สิทธิ์ เจดีย์สูงตระหง่านนี้ไม่ได้เป็นเพียงสถาปัตยกรรมเก่าแก่ แต่คือสัญลักษณ์แห่งการเดินทางของพระถังซัมจั๋ง ผู้เดินเท้านับหมื่นลี้เพื่อนำพระไตรปิฎกจากอินเดียกลับสู่จีน ผ่านเส้นทางสายไหมที่เต็มไปด้วยอุปสรรค ความศรัทธา และความหวัง เจดีย์ห่านป่าใหญ่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 652 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเก็บรักษาพระคัมภีร์ และพระบรมสารีริกธาตุ ที่พระถังซัมจั๋งนำกลับมาจากอินเดีย การก่อสร้างนี้เกิดขึ้นภายใต้การอุปถัมภ์ของราชวงศ์ถัง นำโดยจักรพรรดิถังเกาจง และได้รับการปรับปรุงครั้งแล้วครั้งเล่าโดยจักรพรรดินีบูเช็กเทียน ด้วยความสูงกว่า 64 เมตร และรูปทรงสี่เหลี่ยมอันสง่างามที่เป็นแบบแผนของเจดีย์ทรงจีนผสมกับสถาปัตยกรรมแบบอินเดีย

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 3)

นำท่านเข้าชม ถนนคนเดินต้าถังไร้นิทรา หัวใจที่ไม่เคยหลับใหลของราชวงศ์ถัง ที่ซึ่งสถาปัตยกรรมสุดอลังการได้ถูกปลุกให้กลับมามีชีวิตชีวาด้วยแสงสีและเทคโนโลยีสุดทันสมัย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 936,000 ตารางเมตร ทันทีที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ถนนทั้งสายจะถูกอาบด้วยแสงไฟสีทองอร่าม ส่องสว่างให้อาคารทรงจีนสมัยถังดูงดงามและน่าเกรงขาม นำท่านดื่มด่ำกับวิถีชีวิต ศิลปะการแสดง, ร้านอาหาร, และแหล่งช็อปปิ้ง และการตกแต่งที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์

*** Option Show โชว์เส้นทางสายไหม ราคาท่านละ 400 หยวน หากท่านใดสนใจ สามารถสอบถามเพิ่มเติมและชำระเงินได้ที่ไกด์ท้องถิ่นหรือหัวหน้าทัวร์ โชว์เส้นทางสายไหม ดนตรีละครเวทีระดับโลกที่ผสมผสาน ศิลปะจีน และ มนต์เสน่ห์แห่งบรอดเวย์ เข้าไว้ด้วยกัน การแสดงนี้เป็นโปรเจกต์ที่ได้รับรางวัลมากมายและถูกคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ในด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว เล่าถึงเรื่องราวของเด็กหนุ่มชาวจีนที่เติบโตในโลกตะวันตก เดินทางข้ามเวลาสู่ราชวงศ์ฮั่น และพบกับชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์และหญิงสาวชาวต่างแดน ทั้งสามต้องเผชิญความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย เรื่องราวแห่งมิตรภาพ วัฒนธรรม และจิตวิญญาณของเส้นทางสายไหมจึงถูกถ่ายทอดผ่านการแสดงอันยิ่งใหญ่ การแสดงนี้ใช้เทคนิคล้ำสมัย 3D โฮโลแกรม โปรเจ็กเตอร์ 360 องศา แสง สี เสียง และเอฟเฟกต์เวทีอลังการ เสริมด้วย การต่อสู้สไตล์กังฟู ศิลปะการเชิดหุ่น และดนตรีสด ทำให้ทุกฉากเต็มไปด้วยพลังแห่งอารมณ์ *** ในกรณีที่ท่านไม่ต้องการซื้อออปชั่นเพิ่มเติม บริษัทจะจัดให้คนขับรถพาท่านสู่ย่านช็อปปิ้งใกล้เคียง เพื่ออิสระตามอัธยาศัย *** ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการซื้อ Optional Show ผ่านหัวหน้าทัวร์และไกด์เท่านั้น ด้วยเหตุผลในเรื่องของราคาทัวร์ และด้านความปลอดภัยของตัวท่านเอง รวมถึงการจัดการบริหารเวลาของกรุ๊ปทัวร์ ขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ **

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก

ที่พักHOLIDAY INN EXPRESS XI’AN HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 4)

นำท่านชม พิพิธภัณฑ์กองทัพทหารจิ๋นซีฮ่องเต้ (ระยะทาง 44 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) สถานที่สำคัญที่สุดของเมืองซีอาน ที่ได้รับการประกาศรับรองจากองค์กรยูเนสโก้ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก ในปี ค.ศ. 1987 คือ กองทัพทหารดินเผาถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1974 โดยชาวบ้านในพื้นที่ขณะขุดบ่อน้ำ และนับแต่นั้นมาสถานที่แห่งนี้ก็กลายเป็นหนึ่งในแหล่งโบราณคดีที่สำคัญที่สุดของจีน ตัวพิพิธภัณฑ์คาดว่าอยู่ใกล้กับสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิผู้รวบรวมแผ่นดินจีนเป็นหนึ่งเดียว ที่ได้สร้างสุสานขนาดใหญ่ที่สะท้อนถึงอำนาจและความรุ่งเรือง โดยมี กองทัพทหารดินเผา ซึ่งเป็นรูปปั้นทหารที่แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงจำนวนมากกว่า 8,000 ชิ้น เพื่อปกป้องพระองค์ในโลกหลังความตาย หุ่นทหารทุกตัวมีขนาดเท่าตัวคนจริง และมีใบหน้าแตกต่างกันทุกตัว มีบันทึกว่าสุสานแห่งนี้ใช้แรงงานทาสเป็นจำนวนถึง 726,000 คนใช้เวลาก่อสร้าง 36 ปี กองทัพทหารดินเผาไม่เพียงแค่สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรจิ๋นซี แต่ยังแสดงถึงความรู้และเทคโนโลยีของจีนในยุคโบราณ ตั้งแต่การจัดทัพ การใช้วัสดุ และการสร้างงานศิลปะที่สะท้อนความเชื่อในชีวิตหลังความตาย

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 5)

บ่ายท่านเดินทางกลับ เมืองลั่วหยาง (ระยะทาง 340 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.5 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของมณฑลเหอหนาน เมืองนี้ถือเป็นศูนย์กลางอารยธรรมจีนที่มีอายุกว่า 5,000 ปี และมีสถานะเป็นหนึ่งในเมืองหลวงเก่าแก่ที่สำคัญของจีน เป็นระยะเวลากว่า 1,500 ปีในฐานะเมืองหลวงของ 13 ราชวงศ์ ลั่วหยางยังเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนาและวัฒนธรรมจีน เป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็น "เมืองแห่งวัฒนธรรมโลก" ที่ทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นของ เส้นทางสายไหม และ คลองขุดต้ายุ่นที่เชื่อมโยงวัฒนธรรมจีนกับโลกภายนอก

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 6)

นำท่านเดินทางสู่ ประตูอิ้งเทียนเหมิน หนึ่งในโบราณสถานที่โดดเด่นของลั่วหยาง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 605 ในสมัยราชวงศ์สุย เดิมมีชื่อว่า ประตูเจ๋อเทียนเหมิน ก่อนเปลี่ยนชื่อในยุคพระนางบูเช็กเทียน (ค.ศ. 705) โครงสร้างอันยิ่งใหญ่นี้เคยเป็นศูนย์กลางของพิธีราชวงศ์และงานเฉลิมฉลองที่สำคัญ ประตูแห่งนี้เคยใช้เป็นสถานที่ประกาศราชโองการและพิธีสำคัญต่าง ๆ เช่น การขึ้นครองราชย์ของพระนางบูเช็กเทียน การต้อนรับราชทูต เช่น ราชทูตจากญี่ปุ่นในยุคสุยและถัง ประตูอิ้งเทียนเหมินได้รับการบูรณะใหม่ในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ ด้วยโครงสร้างที่สูงถึง 35 เมตรนี้ถูกสร้างขึ้นบนฐานขนาดใหญ่ 9.2 เมตร ให้ท่านได้สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ของจีนโบราณช่วงราชวงศ์สุยและถังด้วยทิวทัศน์อันอลังการเหมาะสำหรับการเก็บภาพความทรงจำ โดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่แสงสีจะแสดงออกมาได้อย่างสวยสดงดงาม

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก

ที่พักEASEHOUSE LUOYANG HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 7)

นำท่านเดินทางสู่ ถ้ำแกะสลักหลงเหมิน ภูผาศิลาที่ตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำอี๋เจียง เป็นหนึ่งในสุดยอดมรดกโลกทางวัฒนธรรม และเป็นหนึ่งในสามแห่งของศิลปะการแกะสลักหินในจีน ควบคู่กับถ้ำโมเกาคูและถ้ำหยุนกัง เป็นพุทธศาสนสถานเก่าแก่ที่สำคัญและน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดแห่งหนึ่งของจีน การสร้างถ้ำพระพุทธแห่งนี้ที่ได้รับอิทธิพลการสร้างมาจากอินเดีย และชาวกรีกในเอเชียกลาง ภายในมีถ้ำกว่า 2,100 ถ้ำ พร้อมพระพุทธรูปมากกว่า 100,000 องค์ และจารึกบนหินกว่า 3,600 ชิ้น การเจาะหน้าผาหินให้เป็นถ้ำหรืออุโมงค์เข้าไป แล้วสลักเสลาเป็นรูปพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ เทวดา นางฟ้า ทวารบาล รวมถึงการเขียนภาพจิตรกรรมลงบนผนังถ้ำ นำท่านชม พระใหญ่ถ้ำเฟิ่งเซียน สูงถึง 17.14 เมตร ที่ถ้ำเฟิ่งเซียน เป็นสัญลักษณ์แห่งความเมตตาและสง่างาม กล่าวกันว่าใช้พระพักตร์ของพระนางบูเช็คเทียนเป็นแบบในการแกะสลัก เพราะพระนางบูเช็คเทียนสมัยเป็นฮองเฮา ที่เคยพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นจำนวนมาก เพื่อบูรณะถ้ำหินหลงเหมินแห่งนี้ ปัจจุบันยูเนสโก้ประกาศให้หลงเหมินเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 8)

บ่ายนำท่านเยือน ศาลเจ้ากวนอู หนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของจีน ที่นี่เป็นสถานที่ฝังศีรษะของ กวนอู วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคสามก๊ก ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งความซื่อสัตย์ จงรักภักดี และความกล้าหาญ ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการจัดสร้างขึ้นอย่างสมเกียรติ โดย โจโฉ หนึ่งในขุนศึกที่เคารพในคุณธรรมและวีรกรรมของกวนอูอย่างสูง ภายในศาลเจ้าแห่งนี้ ท่านจะได้พบกับ สถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์หมิง อันทรงคุณค่า พร้อมด้วยรูปปั้นของกวนอูในอิริยาบถของแม่ทัพผู้สง่างาม ใบหน้าสีแดงเข้มดั่งผลพุทราสุก หนวดเครายาว สวมอาภรณ์สีเขียว พร้อมถือ "ง้าวมังกรเขียว" อาวุธคู่ใจ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจและความยุติธรรม ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ ป้ายหินแกะสลัก อันแสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์และความเคารพที่ผู้คนมีต่อเทพเจ้ากวนอู การสักการะที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงการแสดงความเคารพต่อขุนพลผู้ยิ่งใหญ่ แต่ยังเชื่อว่าจะนำพา โชคลาภ ความสำเร็จในหน้าที่การงาน และการเลื่อนตำแหน่ง มาสู่ผู้ที่มากราบไหว้ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ นักธุรกิจ หรือเจ้าของกิจการ ต่างนิยมมาขอพรเพื่อความเจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะด้าน อำนาจ วาสนา และความมั่นคงทางการเงิน

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดม้าขาว รับการจารึกไว้ว่าเป็น วัดพพุทธแห่งแรกของประเทศจีน สร้างขึ้นเมื่อกว่า 1,900 ปีก่อนในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ตำนานเล่าว่าทุกอย่างเริ่มต้นจากพระสุบินของจักรพรรดิฮั่นหมิงตี้ ที่ทรงทอดพระเนตรเห็นบุรุษทองคำลอยมาจากทิศตะวันตก จึงทรงส่งคณะทูตไปอัญเชิญพระธรรมคำสอน และได้กลับมาพร้อมกับพระภิกษุชาวอินเดีย 2 รูปบน "ม้าขาว" ตัวหนึ่ง ซึ่งบรรทุกพระคัมภีร์และพระพุทธรูปมาด้วย ภายในบริเวณวัด ท่านจะได้พบกับ "โซนอุโบสถนานาชาติ" ที่น่าทึ่ง ซึ่งมีพระอุโบสถที่สร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมของประเทศต่างๆ ได้แก่ อินเดีย, พม่า, และที่พิเศษที่สุดสำหรับชาวไทย คือการได้เยี่ยมชม "วัดไทย ที่จำลองความงดงามของสถาปัตยกรรมไทยได้อย่างวิจิตรบรรจง เป็นดั่งสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพและความศรัทธาที่เชื่อมโยงสองแผ่นดิน

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 9)

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ณ เมืองเติงเฟิง (ระยะทาง 85 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.5 ชั่วโมง)

ที่พักDENGFENG CHANWU HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 10)

เดินทางสู่ วัดเส้าหลิน (รวมรถอุทยาน) (ระยะทาง 72 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกในฐานะต้นกำเนิดของพุทธศาสนาแบบเซนและศิลปะการต่อสู้จีนอันเลื่องชื่อ ก่อตั้งโดยภิกษุชาวอินเดียนามว่า “พระโพธิธรรม” หรือที่รู้จักกันในนามปรมารย์ตั๊กม้อ มีประวัติยาวนานกว่า 1,500 ปี จากจุดกำเนิดของวิถีชีวิตแบบเซ็นในยุคจักรพรรดิเป่ยเว่ย สู่การช่วยเหลือราชวงศ์ถังในสงครามและได้รับการยกย่องให้เป็น "วัดอันดับหนึ่งใต้หล้า" เส้าหลินยังคงเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนาและศิลปะการต่อสู้ที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน นำท่านชม ป่าเจดีย์ หรือ ถ่าหลิน ที่มีหมู่เจดีย์กว่า 200 องค์ เป็นกลุ่มสุสานของพระสงฆ์ในอดีตที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีต และยังมีโบราณสถานสำคัญ เช่น วิหารต้าเซียง และอนุสาวรีย์หินแกะสลัก ซึ่งเป็นสถานที่บรรจุอัฐิของอดีตเจ้าอาวาสของวัดเส้าหลินนับแต่อดีต จากนั้น ชมการแสดงกังฟู กังฟูเส้าหลินที่ทรงพลังและงดงาม ศิลปะการต่อสู้ที่เชื่อมโยงจิตและร่างกายเข้าด้วยกัน พร้อมกับการฝึกฝนวิชาหมัด, ดาบ, กระบอง และพลังลมปราณ ถ่ายทอดทักษะและวินัยของพระสงฆ์ในอดีต ซึ่งเป็นไฮไลต์สำคัญที่ไม่ควรพลาด

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 11)

บ่ายจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเจิ้งโจว (ระยะทางประมาณ 70 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองเอกแห่งมณฑลเหอหนานที่ได้ชื่อว่าเป็น “หัวใจของแผ่นดินจีน” จากอดีตเมืองหลวงของราชวงศ์โบราณสู่มหานครยุคใหม่ เจิ้งโจวไม่เพียงเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจและการคมนาคม แต่ยังเป็นแหล่งหล่อหลอมวัฒนธรรม วิถีชีวิต และงานสร้างสรรค์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาไม่รู้จบ ในฐานะเมืองเก่าแก่กว่า 3,000 ปี เจิ้งโจวได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งใน “แปดนครโบราณของจีน” และเป็นบ้านของมรดกทางวัฒนธรรมมากมาย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ถนนคนเดินเต๋อหัว จากถนนการค้าโบราณที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1905 สู่ถนนคนเดินสุดทันสมัยที่ไม่เคยหลับใหล ถนนเต๋อฮว่าคือเส้นทางที่ผสานอดีตอันรุ่งเรืองเข้ากับวิถีชีวิตเมืองใหญ่ได้อย่างน่าหลงใหล ถนนยาวกว่า 600 เมตรที่เริ่มต้นจากจัตุรัส 27 (เอ้อร์ชี) เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านบูติกหลากดีไซน์ ร้านอาหารสไตล์จีนดั้งเดิมสลับกับคาเฟ่สมัยใหม่ และเวทีเล็ก ๆ ที่มักมีการแสดงดนตรีพื้นบ้านหรือโชว์วัฒนธรรมแบบสด ๆ ให้ผู้คนได้ร่วมสนุก

ท่านเดินทางสู่ จัตุรัส 27 ณ ใจกลางเมืองเจิ้งโจวคือคำตอบที่ครบที่สุดในหนึ่งเดียว สถานที่ที่ไม่ได้เป็นแค่แหล่งรวมสินค้าแบรนด์ดังระดับโลก แต่ยังเป็นหัวใจของการรวมผู้คน วัฒนธรรม และความภาคภูมิใจของเมืองที่สืบทอดมาจากเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาวจีน จัตุรัสล้อมรอบด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำและร้านค้ากว่าอีกนับร้อยแห่งที่เรียงรายสองฟากฝั่งถนน อุดมไปด้วยสินค้าแบรนด์เนม เครื่องใช้ไฟฟ้าไปจนถึงร้านอาหารท้องถิ่นที่จัดจ้านไม่แพ้ใคร และเมื่อก้าวเข้าสู่ใจกลางของจตุรัส จะพบกับ หอคอยสูง 63 เมตร ที่ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อสิทธิของแรงงานรถไฟในปี 1923 ที่ครั้งหนึ่งเขียนประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของจีนไว้ด้วยเลือดและอุดมการณ์ บนยอดหอคอยยังเป็นจุดชมวิวระดับเมืองที่คุณสามารถมองเห็นภาพพาโนรามาของเจิ้งโจวได้สุดสายตา หอคอยประดับด้วยแสงสีที่ส่องผ่านกระจกและโครงสร้างสถาปัตยกรรมโบราณผสานสมัยใหม่อย่างงดงาม พร้อมเสียงระฆังจากนาฬิกาทั้งหกหน้าที่ดังกังวานทุกชั่วโมง เรียกความทรงจำเก่า ๆ กลับมาดังบทเพลง (ราคาทัวร์ไม่รวมค่าขึ้นหอคอย)

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 12)

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก

ที่พักZHENGZHOU MEDISON HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 13)

นำท่านชม เขาหมื่นเซียน (ว่านเซียนซาน) (ระยะทางประมาณ 160 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.5 ชั่วโมง) จุดหมายปลายทางที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และวัฒนธรรมโบราณที่หลากหลายอย่างลงตัว ตั้งอยู่ในใจกลางเทือกเขาไท่หัง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 64 ตารางกิโลเมตร โดยจุดสูงสุดของภูเขาอยู่ที่ 1,672 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทัศนียภาพของหุบเขาเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ผสานกันระหว่างหน้าผาสีแดงที่สูงชัน หุบเขาลึก และน้ำตกที่เปรียบเสมือนสายไหมโปรยปรายลงมา รวมถึงป่าไม้ดั้งเดิมที่ยังคงความสมบูรณ์ มีพันธุ์พืชกว่า 1,000 ชนิด และสัตว์ป่าหายาก เช่น เสือดาวจีนและลิงภูเขา ที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่การชมธรรมชาติเท่านั้น ท่านสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย ทั้งยังอยู่ในที่บรรยากาศที่เหมาะสมตลอดทั้งปี ฤดูใบไม้ผลิดอกไม้ผลิบาน ฤดูร้อนอากาศเย็นสบาย ฤดูใบไม้ร่วงใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมผลไม้ป่า และฤดูหนาวที่ปกคลุมด้วยหิมะเหมาะสำหรับการเล่นสกี เป็นดินแดนที่รวมเอาความสงบ ความงดงามของธรรมชาติ และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เข้าด้วยกัน ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ทั้งความอลังการของทิวทัศน์และความลึกซึ้งของวัฒนธรรม

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 14)

บ่ายนำท่านชม หมู่บ้านกัวเลี่ยงชุน ณ ความสูง 1,000 เมตรในใจกลางเทือกเขาไท่หัง เป็นหมู่บ้านที่ล้อมรอบด้วยภูเขา 3 ด้านและหน้าผาสูงชันอีกด้านหนึ่ง ด้วยความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมพื้นบ้านอันเรียบง่าย หมู่บ้านแห่งนี้จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ศิลปิน และผู้สร้างภาพยนตร์จากทั่วโลก ส่งผลให้หมู่บ้าน ได้รับการขนานนามว่าเป็น "หมู่บ้านแห่งภาพยนตร์" และ "ไข่มุกแห่งไท่หัง"

นำท่านชม ถ้ำกั่วเลี่ยงและถนนแขวนหน้าผา อันถือเป็นไฮไลท์ของหมู่บ้านแห่งนี้ ที่มาพร้อมเรื่องราวอันทรงพลัง ในปี 1972 ชาวบ้าน 13 คนที่นำโดยผู้นำหมู่บ้านได้ร่วมกันตัดสินใจเปิดเส้นทางสู่โลกภายนอก พวกเขาใช้เวลา 5 ปีทุบหินด้วยมือเปล่าและเครื่องมือพื้นฐานเพื่อสร้างถนนยาว 1,300 เมตรในหน้าผาอันสูงชัน ผลลัพธ์คือถนนยาว 1,250 เมตร กว้าง 6 เมตร และสูง 4 เมตร ที่ตัดผ่านหน้าผาสูงกว่า 105 เมตร จนได้รับการยกย่องให้เป็น "ถนนที่อันตรายที่สุดในโลก" ถนนที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นนี้ไม่เพียงเชื่อมโยงหมู่บ้านกับโลกภายนอก แต่ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของความพยายามและจิตวิญญาณของชาวหมู่บ้านกัวเลี่ยงแห่งนี้ ด้วยกระบวนการสร้างเต็มไปด้วยความลำบาก ชาวบ้านต้องขายทรัพย์สินทั้งหมดที่มี รวมถึงแพะและมันเทศเพื่อหาเงินซื้ออุปกรณ์ แม้ในวันที่ยากจนที่สุด ทุกคนในหมู่บ้านไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง เด็ก หรือคนชราต่างร่วมแรงร่วมใจขนเศษหินด้วยมือเปล่า ท่ามกลางความเสี่ยงและความยากลำบาก หลายคนถึงขั้นสละชีวิตเพื่อให้โครงการนี้สำเร็จ ความงามของกัวเลี่ยงชุนไม่ได้มีเพียงถนนแขวนหน้าผา แต่ยังรวมถึงวิวทิวทัศน์ของภูเขา หุบเขา และธรรมชาติที่ผสมผสานอย่างลงตัวกับวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น การมาเยือนหมู่บ้านแห่งนี้ ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ แต่ยังได้เรียนรู้เรื่องราวของความอดทนและความมุ่งมั่นของชาวจีน ณ สถานที่ที่ผสานความงดงามของธรรมชาติ ความลึกซึ้งของประวัติศาสตร์ และเสน่ห์ของวัฒนธรรมดั้งเดิมอย่างลงตัว

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 15)

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ณ เมืองฮุยเซี่ยน (ระยะทางประมาณ 45 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)

ทีพักHUIXIAN SHANGQUAN YIPIN HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 16)

นำท่านชม เขาเทียนเจี้ยซาน ณ ใจกลางเทือกเขาไท่หางอันยิ่งใหญ่ มีดินแดนแห่งหนึ่งที่ไม่ใช่แค่สวยงาม แต่ยังเป็นที่บรรจบกันของ 3 โลกที่แตกต่าง โลกแห่งธรรมชาติอันบริสุทธิ์, โลกแห่งจิตวิญญาณและศรัทธา, และโลกแห่งจิตใจที่ไม่ยอมแพ้ของมนุษย์ สัมผัสกับทิวทัศน์อันงดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดของเทือกเขาไท่หัง และหัวใจของที่นี่คือ ระเบียงเมฆา เส้นทางเดินชมวิวแบบ 360 องศา ที่สร้างลัดเลาะไปตามไหล่เขาเป็นระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร การได้มาเดินบนระเบียงแห่งนี้ คือประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เบื้องล่างคือหุบเหวลึกและทะเลหมอกที่สวยงามราวกับแดนสวรรค์ เบื้องหน้า คือทิวทัศน์ของหน้าผาหินทรายสีแดงอันยิ่งใหญ่ตระการตา ตลอดเส้นทาง ท่านจะได้พบกับจุดชมวิวที่ถูกออกแบบมาอย่างดี ให้ท่านได้หยุดพักและใช้จินตนาการมองหาก้อนหินรูปร่างแปลกตาที่ซ่อนอยู่

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 17)

บ่ายนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองเจิ้งโจว (ระยะทาง 118 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.5 ชั่วโมง)

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินเจิ้งโจวซินเจิ้ง

18.20 น.ออกเดินทางสู่ สนามบินดอนเมือง กรุงเทพ โดย สายการบิน ไลออนแอร์ (SL) เที่ยวบินที่ SL965 รวมน้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัม/ท่านละ 1 ใบ **ไม่มีอาหารบนเครื่อง** สายการบินมีขายอาหารบนเครื่อง (มีเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและขนมทานเล่น) โดยท่านสามารถสั่งซื้อได้ ณ เจ้าหน้าที่แอร์ บนเครื่องบิน (ไม่เปิดให้จองล่วงหน้า) ทั้งนี้เมนูอาหารอาจจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละไฟลท์ โดยมีสายการบินเป็นผู้กำหนด

21.25 น.เดินทางถึงสนามบินดอนเมืองโดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ